เช็คก่อนนั่ง! วิธีการป้องกันงูในชักโครกและไล่ไปไกลบ้าน
ถ้าพูดถึงสัตว์เลื้อยคลาน ที่เป็นอันตรายและทำให้เพื่อนๆ หลายคนหวาดกลัว ก็คงจะต้องนึกถึง “งู” ที่ไม่มีใครอยากเจอหรืออยากเข้าใกล้กันอย่างแน่นอน ยิ่งช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับงูเข้าบ้าน และรวมไปถึงงูอยู่ในชักโครก วันนี้เราจึงมีวิธีการป้องกันงู และ วิธีปฏิบัติเมื่อเจองูมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
- ตรวจสอบและแก้ไขระบบท่อ หากพบว่ามีการรั่วหรือมีช่องโหว่ให้รีบทำการแก้ไข เพราะนั้นอาจจะทำให้งูเลื้อยผ่านเข้าท่อระบายน้ำ แล้วหลุดเข้ามาที่บ่อเกรอะได้ ซึ่งนั้นจะทำให้งูเลื้อยผ่านไปยังท่อที่เชื่อมกับคอห่านได้อย่างง่ายดาย
- ติดตั้งตาแกรงหรือตาข่าย ที่บริเวณปลายท่อน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันงูไม่ให้เลื้อยผ่านเข้ามายังท่อ
- ปิดประตูห้องน้ำให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้งูเลื้อยเข้ามายังภายด้านในห้องน้ำ
คุณสมบัติ #ฐานรองที่นอน #เตียงลิ้นชัก #ฐานรองเตียง #เตียงเก็บของ ของเราสามารถยืดอายุการใช้งานและรัษาที่นอนให้นานยิ่งขึ้น ทำให้ที่นอน นอนสบายมากขึ้นด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง มีประสิธิภาพในการลดแรงกดทับจากน้ำหนักตัว ที่เกิดจากการใช้งาน และยังเพิ่มความสะดวกในการลุกจากเตียงนอน หรือลมตัวลงนอนได้สบาย
วิธีเช็คเบื้องต้นว่ามีงูอยู่ในชักโครกหรือไม่ ?
- เปิดไฟภายในห้องน้ำให้สว่างที่สุด เพื่อได้เห็นสิ่งเห็นต่างๆ ที่อยู่ภายด้านในห้องน้ำได้อย่างชัดเจน
- เคาะบริเวณข้างๆ ชักโครก โดยเฉพาะชักโครกแบบมีฝาปิด เพื่อฟังเสียงว่ามีความผิดปกติภายในหรือไม่ จากนั้นค่อยๆ เปิดฝาชักโครกอย่างช้าๆ แต่หากได้ยินเสียงที่ผิดปกติ ควรหาอุปกรณ์อื่นๆ มาใช้ในการเปิด เพื่อใช้เป็นตัวช่วยและการป้องกันตัว
- ก่อนใช้งานควรมีการกดชักโครกหรือราดน้ำ เพื่อเช็คว่ามีงูหรือสัตว์อื่นๆ อยู่ภายด้านในหรือไม่
วิธีป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน
- อย่าปล่อยให้บ้านรก สิ่งนี้ถือเป็นข้อเบื้องต้นที่ทุกบ้านควรปฏิบัติ เนื่องจากความสกปรกและความรกนั้น จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีของสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่มีพุ่มไม้ หรือ พงหญ้า ฉะนั้น ควรมีการจัดตกแต่งให้เป็นระเบียบ ทั้งภายในและภายนอกบ้านให้ดูโล่งและสะอาดที่สุด โดยเพื่อนๆ สามารถชมวิธีการทำความสะอาดบ้านอย่างถูกวิธีได้ที่นี้เลยค่ะ
- อย่าปล่อยให้มีแหล่งอาหารของงู ซึ่งนั้นก็คือ พวกหนู กบ ตุ๊กแก นั้นเอง หากปล่อยให้มีสัตว์เหล่านี้อยู่ในบ้านก็จะมีความเสี่ยงที่งูจะเลื้อยเข้ามายังภายในบ้านได้ ฉะนั้น ควรมีการทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมออย่างที่ได้เกริ่นไปในข้อที่ 1 ค่ะ
- เลี้ยงสุนัขช่วยป้องกันงูได้ โดยงูถือเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย เมื่อสุนัขได้กลิ่นหรือเห็นสิ่งแปลกปลอมอย่างงู ก็จะทำการเห่า จนทำให้งูตกใจและหนีไป อีกทั้งสุนัขยังเป็นสัตว์ที่ไวต่อกลิ่น และ อันตรายต่างๆ จึงถือเป็นสิ่งที่ช่วยสอดส่องดูแลบ้านได้เป็นอย่างดี แต่หากเป็นงูที่ตัวใหญ่และมีการต่อสู้อาจส่งผลทำให้สุนัขเกิดอันตรายได้ค่ะ
- โรยกรวดรอบบ้าน วิธีนี้อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็สามารถป้องกันงูได้ในระดับหนึ่ง เพราะหินก้อนเล็กๆ หรือกรวดนั้น จะส่งผลในการเลื้อยของงูที่ยากลำบากยิ่งขึ้น หรือเป็นอุปสรรคในการเลื้อยนั้นเอง จนทำให้งูไม่อยากเข้ามาใกล้และหนีไปในที่สุดค่ะ
- ติดตั้งแผ่นกันงู อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการเลื้อยของงู เนื่องจากแผ่นกันงูนั้น ทำมาจากแผ่นพลาสติกที่มีความลื่นค่อนข้างสูง จึงยากที่งูจะสามารถเลื้อยได้ อีกทั้งยังใช้งานได้ง่ายอีกด้วย เพียงนำแผ่นกันงูไปติดบริเวณผนังภายนอกบ้าน หรือเสาไฟฟ้า เท่านี้ งูก็ยากที่จะเลื้อยเข้ามาภายในบ้านแล้วค่ะ
- ติดตั้งตาข่ายและมุ้งลวด ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถช่วยป้องกันงูได้ เนื่องจากตาข่ายและมุ้งลวดมีช่องขนาดเล็ก จึงทำให้งูไม่สามารถเลื้อยผ่านช่องเข้าไปได้นั้นเอง
- ป้องกันงูด้วยกำมะถัน เพียงเพื่อนๆ นำกำมะถันไปผสมกับน้ำแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปโรยบริเวณรอบๆ บ้าน ด้วยกลิ่นฉุนของกำมะถันจะทำให้งูนั้นหนีไป ซึ่ง DEEROOM เตียงนอน แนะนำว่าควรมีการทำเดือนละ 1 ครั้ง เพราะกลิ่นของกำมะถันนั้นจะจางหายไป โดยสำหรับวิธีนี้ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้กันมากและค่อนข้างได้ผล ซึ่งไม่สามารถใช้กับงูได้ทุกชนิด
- ป้องกันงูแบบวิธีธรรมชาติด้วยมะกรูด มาดูวิธีป้องกันงูแบบภูมิปัญญาชาวบ้านกันบ้าง เพียงนำมะกรูดผ่าครึ่งไปวางตามจุดต่างๆ ของบ้าน ด้วยกลิ่นฉุนของมะกรูดจะทำให้งูไม่กล้าเข้าใกล้ หรือ จะปลูกต้นมะกรูดไว้บริเวณรอบๆ บ้านก็ได้เช่นกัน
วิธีปฏิบัติเมื่อเจองู
- ตั้งสติและสังเกตประเภทงูว่ามีพิษหรือไม่ โดยการสังเกตเบื้องต้นให้ดูในส่วนของหัว หากมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ให้สันนิษฐานว่าเป็นงูที่มีพิษ แต่หากมีลักษณะที่เป็นกลมมน นั้นคืองูที่ไม่มีพิษ โดยการจับงูแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ซึ่งหากเพื่อนๆ รู้ประเภทของงูก็จะทำให้รู้วิธีการจับที่ง่ายและเหมาะสมมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
- อย่าวิ่ง ควรอยู่นิ่ง หรือ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ การที่เพื่อนๆ วิ่ง จะทำให้งูตกใจและมีการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดอันตรายได้ ฉะนั้นควรอยู่นิ่งๆ และมีการเคลื่อนไหวที่ช้า จากนั้นก็ค่อยๆ ถอยห่างไปในระยะที่ปลอดภัย
- ป้องกันสมาชิกทุกคนไม่ให้อยู่ใกล้ หากมีงูเข้าภายในบ้าน ควรกันทุกคนให้ออกห่างจากงู โดยเฉพาะเด็กๆ จากนั้น ดูความเคลื่อนไหวของงู ว่ามีการเปลี่ยนทิศทางและเคลื่อนย้ายหรือไม่ เพื่อกันการหลบหนีของงู
- โทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถจับงูได้ ในการจับงูนั้น จะต้องใช้เครื่องมือและผู้ที่มีความชำนาญ หากจับเองอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ฉะนั้นควรเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมาจับงูออกไป อาทิ เจ้าหน้าที่กู้ภัย โทร. 199 เป็นต้น
ช่องทางการติดต่อ:สั่งซื้อ ฐานรองที่นอน เตียงลิ้นชัก หัวเตียง
เบอร์ติดต่อ : 097-241-8194 , 081-499-8988
LineID : @deeroom หรือ คลิกปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย!